วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารวงการไอที

ยักษ์ITยกทัพสินค้าถล่มคอมมาร์ต เอชพีเปิดเกมทวงคืนมาร์เก็ตแชร์ขยับลงตลาดล่าง

จันทร์, 11 ตุลาคม 2010
ยักษ์ITยกทัพสินค้าถล่มคอมมาร์ต เอชพีเปิดเกมทวงคืนมาร์เก็ตแชร์ขยับลงตลาดล่าง


"คอมมาร์ต" แรงจัด ขยายเวลาการจัดงานหนุนเพิ่มโอกาสการขาย ฟากยักษ์ โน้ตบุ๊กเตรียมพาเหรดสินค้าใหม่ในงานคอมมาร์ต 3-7 พ.ย. หวังปลุกกำลังซื้อช่วงปลายปี "เอชพี" เปิดเกมทวงคืนมาร์เก็ตแชร์ ส่งโน้ตบุ๊กใหม่ "ซีรีส์" ลงมาเล่นตลาดล่างในราคาเริ่มต้น 19,900 บาท ชูจุดขายบริการซ่อมด่วนภายใน 30 นาที พร้อมแก้เกมลูกค้าอั้นกำลังซื้อรอคอมมาร์ต จัดโปรโมชั่นพิเศษทุกสัปดาห์ ส่วน "เดลล์" ลุ้นนำ "Streak" แท็บเลตขนาด นิ้ว เปิดตัวในงาน



นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานสินค้าไอทีคอมมาร์ต เปิดเผยว่า สำหรับงาน "คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2010" ปลายปีนี้ได้ขยายเวลาการจัดงานเพิ่มเป็น วัน ตั้งแต่วันที่ 3-7 พฤศจิกายน 2553 จากปกติ วัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายให้กับผู้ค้ามากขึ้น เพราะพื้นที่ในศูนย์ประชุมสิริกิติ์มีจำกัด ไม่สามารถขยายพื้นที่เพิ่มได้ บริษัทจึงต้องขยายเวลา ซึ่งถือว่าเป็นจังหวะที่ดีเพราะไตรมาส เป็นช่วงที่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก และหลายบริษัทเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ ทำให้การขยายเวลาเพิ่มโอกาสการขายมากขึ้น 

"
แม้ว่าผู้ค้าจะต้องลงทุนเพิ่ม แต่ทุกรายต่างก็ยอมรับเพราะเห็นโอกาสในการขายเพิ่มขึ้น และจากผลสำรวจในปีที่ผ่านมา ๆ พบว่ามีผู้เข้าชมงานจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถเข้าชมงานภายในระยะเวลาที่กำหนดได้" 
ทั้งนี้บริษัทได้เพิ่มงบฯประชาสัมพันธ์งาน 20% เพื่อโปรโมตระยะเวลางานให้รู้จักกันมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานถึง ล้านคน และสามารถสร้างยอดขายเพิ่มเป็น 4,000 ล้านบาท จากปลายปีที่ผ่านมาทำยอดขายได้ประมาณ 3,500 ล้านบาท 
นายพงศ์ธวัช พิเชฐเลอมานวงศ์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์และการตลาด กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากที่ปัจจุบันโน้ตบุ๊กราคา 18,900-26,000 บาท คือตลาดเมนสตรีม มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 50-60% ของตลาดรวมโน้ตบุ๊กในไทย ขณะที่โน้ตบุ๊กภายใต้แบรนด์เอชพีระดับราคาต่ำสุดจะอยู่ที่ หมื่นกว่าบาท ทำให้ไม่มีสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเมนสตรีม ในเดือนตุลาคมบริษัทจึงได้นำสินค้าใหม่ "G Series" เข้ามาทำตลาดในราคาเริ่มต้น 19,900-24,900 บาท จำนวน รุ่น ซีพียูคอร์ i3 และ i5 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่แบรนด์เอชพีมีโน้ตบุ๊กราคา 19,900 บาท 
ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทจะมีสินค้าที่ตอบโจทย์ในตลาดเมนสตรีมเฉพาะแบรนด์ คอมแพคเท่านั้น อย่างไรก็ตามตนคาดว่า การลงมาเล่นตลาดนี้ของเอชพีจะไม่ส่งผลกระทบกับแบรนด์คอมแพค ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊ก รุ่นเอนทรี ราคาเริ่มต้นที่ 12,900 บาท เพราะกลุ่มลูกค้าต่างกันและสเป็กสินค้าก็มีความแตกต่าง
นอกจากนี้เอชพีได้เปิดบริการ "HP Service express repair 30 minute" หรือบริการซ่อมด่วน 30 นาที สำหรับลูกค้าที่ซื้อโน้ตบุ๊ก ซีรีส์ จากปกติเอชพีจะใช้เวลาในการซ่อมสินค้าประมาณ 45 นาทีถึง ชั่วโมง เพื่อเป็นการสร้างความแตกต่างกับสินค้าของคู่แข่งในตลาด โดยเซอร์วิสเอ็กซเพรสจะเน้นการซ่อมสินค้าที่ไม่ซับซ้อน เช่น อะแดปเตอร์ แบตเตอรี่ ซีดีรอมซึ่งลูกค้ามักประสบปัญหาเป็นประจำ เบื้องต้นจะเปิดให้บริการ ณ ศูนย์บริการ แห่งของเอชพี และมีแผนจะไปยังจุดรับบริการซ่อมอื่น ๆ ในอนาคต 
นายพงศ์ธวัชกล่าวอีกว่า ภาพรวมตลาดไตรมาส ที่ผ่านมาค่อนข้างชะลอตัว สำหรับไตรมาส แม้ว่าจะมีช่วงเวลาซื้อขายสินค้าน้อยกว่า เพราะเดือนธันวาคมจะมีวันหยุดยาวเยอะ แต่เนื่องจากจะมีงานคอมมาร์ตมาช่วยกระตุ้นตลาดช่วงปลายปีได้มาก 
แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจรองานคอมมาร์ต ดังนั้นเอชพีจึง จัดงาน "เอชพีโน้ตบุ๊กเอ็กซ์โป" ตั้งแต่ก่อนงาน สัปดาห์ต่อเนื่องไปจนหลังงานอีก สัปดาห์ทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าสามารถ ซื้อสินค้าและโปรโมชั่นเดียวกับในงานคอมมาร์ตได้ และในเดือนตุลาคมนี้เอชพีได้ทำโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษทุกสัปดาห์

"
การทำโปรโมชั่นพิเศษในแต่ละสัปดาห์นั้นถือว่ามีความถี่มากกว่าช่วงที่ผ่าน ๆ มาเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดก่อนหน้างานโน้ตบุ๊กเอ็กซ์โป เพราะลูกค้าจะได้ไม่ต้องรอซื้อสินค้าก่อนงานคอมมาร์ต แถมยังเป็นการช่วยให้ดีลเลอร์แฮปปี้ด้วย"
โดยภาพการแข่งขันในงานคอมมาร์ตปลายปี ตนคาดว่ายังคงรุนแรงเหมือนเดิม เพราะมีสินค้าใหม่และเทคโนโลยีใหม่ เช่น ซีพียูเบอร์ใหม่ ความเร็วดีขึ้นเข้าสู่ตลาด ทำให้ตลาดปลายปีมีสีสัน และจากปัจจัยค่าเงินบาทแข็งทำให้ลูกค้าได้รับสินค้าสเป็กที่ดีขึ้นในราคาที่เหมาะสมด้วย 

"
ตอนนี้ยอมรับว่า ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ แบรนด์เบอร์ 3, 4 และ มีการเติบโตมากขึ้น สำหรับเอชพีแล้ว ช่วงที่ผ่านมาอาจจะยังไม่มีสินค้าใหม่ หรือแพลตฟอร์มใหม่ แต่ตอนนี้เอชพีมีสินค้าใหม่เข้ามาตอบโจทย์ลูกค้าแล้ว ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้สัดส่วนรายได้ของแบรนด์เอชพีมากขึ้น" นายพงศ์ธวัชกล่าว
แหล่งข่าวในแวดวงไอทีกล่าวว่า การปรับตัวครั้งนี้ของเอชพี ถือว่าเป็นแผนการชิงคืนส่วนแบ่งตลาดของเอชพี หลังจากช่วงที่ผ่านมาเอชพีได้สูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งรายกลางในตลาด โดยในไตรมาส ที่ผ่านมา เอชพีมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 19% เท่านั้น เป็นการลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2552 จากที่เคยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ประมาณ 30% ซึ่งส่วนหนึ่งมีปัญหามาจากเรื่องการบริหารจัดการสินค้าที่ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ได้ทันท่วงที 
ด้านนายกฤตวิทย์ กฤตยเรืองโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มคอนซูเมอร์ ประจำภาคพื้นเอเชียใต้ เดลล์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ช่วงไตรมาส เดลล์จะมีการเปิดตัวโน้ตบุ๊กซีรีส์ใหม่เจาะกลุ่มตลาดกลางถึงบน รวมทั้ง "Dell streak" แท็บเลตหน้าจอทัชสกรีนขนาด นิ้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เนื่องจากบริษัทเห็นเทรนด์ของตลาดว่ามแนวโน้มีการเติบโตและหลายแบรนด์เปิดตัวแท็บเลตเข้าสู่ตลาด โดยที่จะพยายามนำเข้ามาให้ทันในช่วงงานคอมมาร์ตปลายปีนี้ อย่างไรก็ตามการตอบรับของตลาดจะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับราคาสินค้าและประสิทธิภาพการใช้งานของเครือข่ายด้วย 
สำหรับภาพรวมตลาดคอมพิวเตอร์ไตรมาส คาดว่าจะมีการเติบโตมากขึ้นเพราะเป็นช่วงปิดงบประมาณปลายปี ผู้ค้าแต่ละแบรนด์ต่างเน้นทำโปรโมชั่น อย่างเต็มที่เพื่อเร่งระบายสต๊อกเก่า โดยเฉพาะในงานคอมมาร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้นและปัจจัยจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น คาดว่าจะทำให้สินค้ารุ่นใหม่มีราคาดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้ซื้อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น